11 มิถุนายน 2552

เครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม เข้าพบอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ

เครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย savebird OKnature มูลนิธิกองทุนสิ่งแวดล้อมไทย, กลุ่มคนรักษ์อุทยาน ในห้อง Blue Planet ของเว็บไซด์ pantip.com, trekkingthai.com, ชมรมนักนิยมธรรมชาติ, ตะลอนรักษ์เมืองไทย และ tawanyimchang.comเข้าพบ

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ดร.เกษมสันต์ จิณณวาโส ณ สำนักงานของอธิบดี กรมอุทยานสัตว์ปาและพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ

ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ คณะได้เข้าชี้แจงและแนะนำกิจกรรมรวมถึงวัตถุประสงค์ของเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม

ในการนี้ทางเครือข่าย ได้นำข้อสงสัย เกี่ยวกับกรณีป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ และขอสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการกับรีสอร์ท ซึ่งบุกรุกพื้นที่ เกาะอาดัง อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ดังนี้

กรณีป่าดงใหญ่นั้น กำลังเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจเรื่องการให้สัมปทานกับเอกชน และการบุกรุกของชาวบ้านเพื่อเข้าใช้ประโยชน์ ซึ่งอธิบดีตอบว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดงใหญ่

ได้มีพระราชกฤษฎีกา กำหนดบริเวณที่ดินป่าดงใหญ่ ในท้องที่ตำบลโคกมะม่วง ตำบลหูทำนบ อำเภอปะคำ และตำบลโนนดินแดง ตำบลลำนางรอง กิ่งอำเภอโนนดินแดง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ให้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๙

ซึ่งมีแผนที่ท้ายประกาศพระราชกฤษฎีกา ตามรูป

ในพื้นที่ดังกล่าวมีการอนุญาตให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนจำนวนทั้งสิ้น 9 แปลง ซึ่ง 8 แปลง(อยู่ในพื้นที่ลูกศรสีเขียว) ได้หมดอายุสัมปทาน ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2552 และอีก 1 แปลง(อยู่ในพื้นที่ลูกสรสีแดง) จะหมดอายุสัมปทานในปี พ.ศ.2560 ซึ่งในหนังสือรายงานของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่าเป็นของบริษัท ป่าไม้สยามจำกัด

ดร.เกษมสันต์ ได้ให้ข้อมูลว่า ได้ทราบรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้วว่ามีชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อขอใหทางรัฐจัดสรรที่ดินทำกินให้ หลังจากหมดอายุสัมปทานแล้ว แต่ทางกรมอุทยานฯไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องการให้พื้นที่ป่า กลับสู่สภาพเดิมซึ่งทำได้สองแนวทางคือปลูกเพิ่ม และ ปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นตัวเอง

และจะไม่มีการต่ออายุสัญญาให้กับเอกชนรายใดอีก

ดังนั้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 52 จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 400นาย สนธิกำลังกับกองกำลังสุรนารีอีก 100 นาย เข้าตรึงพื้นที่

ป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ และตรวจตราการเข้าออก พื้นที่อย่างเข้มงวดทั้ง 4 เส้นทาง

และหลังจากนี้จะเสนอให้มีการผนวกรวมพื้นที่ดังกล่าว เข้าเป็นพื้นที่ผืนเดียวกัน เพื่อฟื้นสภาพป่าและยืนยันว่าจะไม่มีการต่อสัญญาให้เอกชน และไม่ยอมให้ช้าวบ้านเข้าไปยึดพื้นที่ดังกล่าวอีกต่อไป เนื่องจากต้องการให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพียงอย่างเดียว และยังได้กล่าวอีกว่าต้องการให้เป็นเหมือนกับ อช. ทับลาน ที่ปัจจุบันนี้ถือว่าไม่มีปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่เพื่อทำกินในเขต ทับลาน

แลเชื่อว่าปัญหาทั้งหมดสามารถที่จะดำเนินการและทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้

.

.

ส่วนเรื่องของความคืบหน้ากรณี รีสอร์ท บนเกาะอาดัง อช.ตะรุเตา

ดร.เกษมสันต์ ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ระงับคำสั่งทางปกครองของกรมอุทยานฯ นั่นหมายความว่าศาลปกครองได้ให้ความคุ้มครองต่ออาดังรีสอร์ท ในกรณีที่กรมอุทยานจะเข้ารื้อถอน ตาม มาตรา 21 และ 22 และทางอาดังรีสอร์ท จะต้องหยุดดำเนิการใดๆ แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ทางรีสอร์ทไม่ได้หยุดดำเนินการ แต่อย่างใด และขณะนี้รีสอร์ท ก็ก่อสร้างจนเสร็จสิ้น ตามที่โอเคเนเจอร์ได้เคยเสนอไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรรีสอร์ทก็ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้

ส่วนเรื่องการบุกรุกพื้นที่ ทางกรมอุทยานฯได้ดำเนินการฟ้องร้องทางคดีไปแล้ว แต่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่า ทางฝ่ายพนักงานสอบสวน(ตำรวจ)มีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า บริษัท อาดังรีสอร์ท ได้ดำเนิการตามกฏหมาย และถูกต้องตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง แต่อธิบดีฯได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า พนักงานสอบสวนอาจไม่ได้พิจารณาข้อกฎหมายของอุทยานแห่งชาติ ก็เป็นได้ ซึ่งขณะนี้ทางกรมอุทยานก็จะรอความเห็นของอัยการจังหวัดก่อน แล้วจึงจะนำมาพิจารณาว่าจะดำเนินการในช่องทางอื่นได้อีกหรือไม่อย่างไร โดยจะพิจารณาอย่างรอบคอบกับฝ่ายนิติกรณ์ของกรมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากจะต้องมีการฟ้อร้องกันใหม่ก็ยินดีที่จะทำ และยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด และจะนำข้อเสนอที่ทางเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อมและ โอเค เนเจอร์ นำเสนอถึงเรื่องบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม และลักลอบใช้น้ำโดยการต่อท่อจากน้ำตกโจรสลัดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

ท่อลูกศรน้ำเงิน คือท่อของอุทยานที่ฝังกลบไว้

ท่อลูกศรสีแดง คือท่อของเอกชนที่ ติดตั้งขึ้นใหม่ และต่อเข้าพื้นที่รีสอร์ทโดยตรงเพียงแห่งเดียว

ไปดำเนินการฟ้องร้องอีกทางหนึ่ง หากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

จากการเข้าพบดังกล่าว ทางเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อมและโอเค เนเจอร์ ไม่ได้มีเจตนาที่จะกดดันการทำงาน ไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่

แต่เป็นเพียงการทำหน้าที่ของกลุ่มประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มีสำนึกหวงแหน ต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

เราเห็นใจการไร้ที่ทำกินของชาวบ้าน แต่เราก็ไม่อาจดูดายที่จะเห็นใครเอาพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเพื่อนร่วมโลก ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวอีกต่อไป

ลองคิดดูว่าวันหนึ่งหากมีคนที่เขามีกำลังมากกว่า มีอาวุธ มีอิทธิพล มาขับไล่ท่านออกจากบ้าน เราก็คงไม่ต่างจากสัตว์ป่าเหล่านั้น

มนุษย์ก็แค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เกิดมาเยือนโลก ไม่ช้าก็ต้องจากไป จะไปรบกวนอะไรต่อโลกนักหนา เมื่อได้ประโยชน์ต่อการยังชีพแล้ว ใยต้องรบกวนเพื่อนร่วมโลกสายพันธุ์อื่น เพียงแค่คิดว่าตัวเอง ฉลาดกว่าเท่านั้นหรือ?

Save Nature Save Life

หมายเหตุ โอเคเนเจอร์ ขอขอบพระคุณ BG ลุงกี๊ มาอย่างสูง ณ โอกาสนี้ที่กรุณาส่ง Link

ที่มีคุณภาพต่อสิ่งแวดล้อมมาให้ เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่มีภาพสวยสดงดงามจากทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย อยากให้ทุกท่านได้ลองดูว่าเมื่อท่านเห็นแล้วจะทำอย่างไรต่อไปกับโลกใบนี้

เชิญชมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้
http://www.youtube.com/watch?v=jqxENMKaeCU


หากท่านต้องการดาวดโหลด โปรดคลิ๊กตามลิ้งด้านล่างนี้
http://www.torrentzap.com/torrent/411232/HOME+-+a+film+by+Yann+Arthus-Bertrand+(2009)+%5BEnglish%5D+%5BHD+MP4%5D